เลขาธิการ กช. แถลงแนวทางการขับเคลื่อนการศึกษาเอกชน 3 มิติ
9 พ.ย. 65 เวลา 15:27 น. 4,218 ครั้ง
นายเรวัฒน์ รินวงษ์
พนักงานปฏิบัติการด้านคอมพิวเตอร์

เช้าวันนี้ (12 ตุลาคม 2565) นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) แถลงแนวทางการทำงาน และทิศทางการขับเคลื่อนการศึกษาเอกชน ภายหลังจากการเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการ กช. โดยจะยึดตามนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การนำของนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ณ ห้องเลขาธิการ ชั้น 2 อาคาร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)

นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับพี่น้องชาวการศึกษาเอกชนอีกครั้ง และขอขอบพระคุณผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการที่ไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว สำหรับแนวทางการทำงาน จะขับเคลื่อนการศึกษาเอกชนโดยยึดนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ใน 3 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนเก่ง คนดี มีคุณภาพ โดยเน้นการส่งเสริม พัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล การสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ พัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มิติที่ 2 สถานศึกษา ส่งเสริมสถานศึกษาให้มีคุณภาพ มีความเข้มแข็ง โดยผลักดันการแก้ไขพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนฯ ทบทวน และปรับลดกฎระเบียบที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการส่งเสริมการศึกษาเอกชนตามหลักการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ศึกษาแนวทางการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เรียน ศึกษาแนวทางการขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนเพิ่มเติม ส่งเสริมสิทธิประโยชน์ และการลดหย่อนภาษีให้แก่สถานศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ และมุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัยต่อผู้เรียน และ มิติที่ 3 การบริหารจัดการ ได้แก่ 1) การขับเคลื่อนการส่งเสริมการศึกษาเอกชนผ่านกลไกของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน รวมถึงคณะอนุกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 2) ประสานการดำเนินงานและการสื่อสารกับหน่วยงานในส่วนภูมิภาคอย่างใกล้ชิด (สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด (สช.จังหวัด)) เพื่อให้การขับเคลื่อนงานระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีความรวดเร็ว ราบรื่น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 3) ส่งเสริมการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายการศึกษาเอกชน (คณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด (ปส.กช.) / สมาคมทางการศึกษาเอกชน) 4) พัฒนาข้าราชการ บุคลากร และระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ มีความทันสมัย ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และ 5) เพิ่มประสิทธิภาพศูนย์ข้อมูลความปลอดภัยและเครือข่ายเฝ้าระวังของสถานศึกษาเอกชน

นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จะขอทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถร่วมกับพี่น้องชาวการศึกษาเอกชน โดยจะเน้นการรับฟังความคิดเห็นและหาทิศทางร่วมกันกับทุกภาคส่วน เพื่อลดปัญหาอุปสรรค เติมเต็ม และต่อยอดงานให้เป็นไปตามทิศทางที่วางไว้ ซึ่งชาวการศึกษาเอกชนสามารถร่วมสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะในการพัฒนาการศึกษาเอกชนร่วมกัน ผ่านกลไกของกลุ่มเครือข่ายที่ได้กล่าวมาข้างต้นได้ต่อไป